ใช้ยาสเตียรอยด์หยอดตานานๆ เสี่ยงตาบอดจริงหรือ? ข้อควรรู้ก่อนใช้ยา
อัพเดทล่าสุด: 21 เม.ย. 2025
45 ผู้เข้าชม
ยาหยอดตาสเตียรอยด์คืออะไร?
ยาสเตียรอยด์หยอดตาเป็นยาที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพื่อลดอาการอักเสบในดวงตา ในการรักษาภาวะต่าง ๆ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ, ภูมิแพ้ขึ้นตา, ม่านตาอักเสบ และลดอาการอักเสบหลังผ่าตัดตา
โดยทั่วไปยาสเตียรอยด์มีฤทธิ์ลดการอักเสบได้ดีและให้ผลรวดเร็ว ผู้ป่วยมักรู้สึกว่าอาการดีขึ้นหลังใช้ เช่น ตาแดงลดลง หรืออาการระคายเคืองหายไป แต่สิ่งที่ควรคำนึงเวลาใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ คือ ยาสเตียรอยด์สามารถทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงได้ หากมีการใช้ยานี้อย่างไม่ระมัดระวัง โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้ยาติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
อันตรายจากการใช้ยาสเตียรอยด์หยอดตานานเกินไป
แม้จะได้ผลดีในระยะสั้น แต่หากใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์นานเกินความจำเป็น หรือใช้โดยไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง เช่น
1. โรคต้อหิน (Glaucoma)
การหยอดยาสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นะระยะเวลานานๆ สามารถทำให้ความดันในลูกตาสูงขึ้น ความดันตาที่สูงนี้จะทำให้เกิดโรคต้อหินโดยที่เราไม่รู้ตัว เพราะโรคต้อหินที่เกิดจากยามักจะไม่มีอาการปวด ตาจะมัวลงอย่างช้าๆ ลานสายตาค่อยๆ แคบลงเรื่อยๆ จนสามารถสูญเสียการมองเห็นอย่างถาวรได้ในที่สุด
2. โรคต้อกระจก (Cataract)
ต้อกระจกคือภาวะที่เลนส์ตาซึ่งปกติจะใส กลับกลายเป็นขุ่นและบดบังแสงที่ผ่านเข้ามายังดวงตา ส่งผลให้การมองเห็นมัวลง ทำให้ผู้ป่วยต้องเผชิญกับการมองเห็นที่แย่ลงและอาจต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อรักษาต้อกระจกในที่สุด
ตัวอย่างจากประสบการณ์จริง
ผมเองได้เจอกับคนไข้หลายรายที่อาจรู้สึกเคืองตาหรือตามัวๆ แล้วได้ไปซื้อยามาหยอดเอง โดยไม่ได้มาตรวจกับแพทย์ ยาที่ซื้อมาเป็นยาสเตียรอยด์ คนไข้หยอดแล้วรู้สึกว่าอาการดีขึ้น จึงซื้อหยอดเองมาเรื่อยๆ เป็นระยะเวลาหลายเดือนจนกระทั่งสุดท้ายตามัวลงมากๆจึงมาโรงพยาบาล ตรวจพบว่าเป็นต้อหินระยะรุนแรง ที่เส้นประสาทตาได้ถูกทำลายไปเยอะมากแล้ว สิ่งที่น่าเสียใจคือเส้นประสาทตาที่ถูกทำลายไปแล้วจะไม่สามารถฟื้นกลับมาได้อีก ทำให้คนไข้สูญเสียการมองเห็นไปตลอดชีวิต
ข้อแนะนำในการใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์อย่างปลอดภัย
เพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงจากการใช้ยา ควรปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้:
- การใช้ยาหยอดตาสเตียรอยด์ ควรอยู่ในความดูแลและควบคุมของแพทย์เสมอ
- โดยทั่วไปไม่ควรใช้ยาหยอดสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ถ้าอาการดีขึ้นแล้วควรหยุดยา
- ตรวจสอบส่วนประกอบของยาที่หยอดว่ามี สเตียรอยด์หรือไม่